• ลิ่มเลือดอุดตัน (DVT): บวมข้างเดียว เจ็บ แดง ร้อน อันตราย ควรรีบพบแพทย์
• การอักเสบของผิวหนัง (Cellulitis): บวม ร้อน แดง คันหรือปวด มักเกิดจากการติดเชื้อ
• อุบัติเหตุ เช่น ข้อเท้าพลิก กล้ามเนื้อฉีก: บวมเฉพาะจุด อาจมีรอยช้ำ
• เส้นเลือดขอด: บวมช่วงเย็น เห็นเส้นเลือดโป่งพอง อาจมีอาการหนักขา
• ระบบน้ำเหลืองผิดปกติ (Lymphedema): บวมแข็ง กดไม่บุ๋ม ค่อย ๆ ลามจากข้อเท้าขึ้นมา
• หัวใจล้มเหลว (Heart Failure): บวมตอนเย็น เหนื่อยง่าย ร่วมกับบวมที่เท้าและข้อเท้า
• ไตวายหรือโรคไต: บวมช่วงเช้า ร่วมกับหน้าบวม ปัสสาวะผิดปกติ
• ตับแข็ง (Cirrhosis): ขาบวม ร่วมกับท้องมาน ตัวเหลือง
• ยาบางชนิด: เช่น ยาลดความดัน (amlodipine), NSAIDs, ยาคุมกำเนิด
• การยืนนาน/นั่งนาน: มักบวมชั่วคราวและดีขึ้นเมื่อยกขาสูง
• ขาบวมร่วมกับหายใจเหนื่อย แน่นหน้าอก
• ขาบวมข้างเดียวและเจ็บหรือแดง
• ขาบวมเรื้อรัง ไม่ดีขึ้นแม้พัก
• ขาบวมร่วมกับไข้หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ
- ผู้ที่มีปัญหาขาบวม เท้าบวม จากการยืนนาน หรือนั่งนาน
- ผู้ที่ผ่านการดูดไขมันหรือทำ body contouring มาแล้ว
- ผู้ที่มีระบบน้ำเหลืองไหลเวียนไม่ดี หรือเซลลูไลท์สะสม
• ผู้ที่มีลิ่มเลือดอุดตัน (DVT)
• ผู้ที่มีโรคหัวใจรุนแรง
• มีแผลเปิด หรือการติดเชื้อเฉียบพลัน
• เพิ่งผ่าตัดใหม่ในบริเวณที่จะทำ
• ครั้งละ 20–30 นาที
• สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ขึ้นอยู้กับอาการ